ชวนอ่าน...ชมรมหลอนล่าผี 2 เด็กหญิงชุดแดง ‘ระวังไว้หากคุณยังต้องขับขี่ยานยนต์ยามค่ำคืน’
คุณผู้อ่านท่านใดที่กลัวผี
และยังต้องใช้รถจักรยานยนต์อย่างเปล่าเปลี่ยวยามค่ำคืน! ให้คุณข้ามเล่ม
2
ของหนังสือ ‘ชมรมหลอนล่าผี’ ไปได้เลย มิฉะนั้นอ่านจบคุณจะต้องเหลียวมองกระจกหลังตลอดเวลาด้วยความหลอน มาต่อกันที่ ‘ชมรมหลอนล่าผี
2 เด็กหญิงชุดแดง’ เล่มที่เราชอบที่สุดในหนังสือชุดนี้เลย
เรื่องย่อเราขอเล่า
นี่ ๆ เคยได้ยินมั้ย
ที่ถนนตรงมุมโค้งตรงนั้นน่ะ
ในตอนกลางคืน
คุณอาจจะได้เจอเด็กหญิงใส่ชุดสีแดงตัดหน้ารถคุณได้นะ แต่เมื่อคุณหยุดรถ เธอคนนั้นกลับหายไปเสียดื้อ
ๆ และหากคุณคิดว่าไม่มีอะไรแล้วล่ะก็...
ลองมองกระจกหลังสิ!
เงาร่างเล็กนั้นกำลังวิ่งตรงมาที่คุณอย่างเอาเป็นเอาตายเลยแหละ
และหากคุณรอดการไล่ตามครั้งนี้ไปได้
ก็อย่าเพิ่งนิ่งนอนใจ เพราะมันจะไล่ตามคุณไปถึงในฝัน
ทุกครั้งที่คุณหลับมันจะตามหาตัวคุณให้เจอ
และเรื่องราวก็ได้เริ่มต้นขึ้น เมื่อมีเด็กนักศึกษา 2
คน เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตที่ถนนเส้นนั้น โดยก่อนเกิดเหตุพวกเค้าได้บอกกับเพื่อนว่าเกือบเกิดเรื่องใหญ่แล้ว
นั่นคือ พวกเค้าเกือบจะชนเด็กคนนึงเข้าให้ และในที่เกิดเหตุ มีเพียง กัวเย่ว์หยาง
หนึ่งในสมาชิกชมรมตำนานประจำเมือง ที่พูดขึ้นว่า...
“เด็กคนนั้น ใส่ชุดสีแดงใช่มั้ย?”
**********
เป็นความซวยของ กัวเย่ว์หยาง
รองประธานชมรมจิตใจดีงามของเรานั่นเอง ที่นอกจากจะต้องเสียใจกับเพื่อนทั้งสองคนที่ประสบอุบัติเหตุในวันที่ฝนตกอย่างหนักเพื่อไปดูหนังที่นัดกันไว้
ตัวเองกลับได้ไปเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น
เป็นเหตุให้ในแต่ละคืนเริ่มฝันร้ายเรื่องเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ร่างกายเริ่มทรุดโทรมลง
จน เฝิงเชียนจิ้ง หญิงสาวอดีตแชมป์มวยปล้ำที่ปัจจุบันแชร์ห้องกันอยู่กับสามหนุ่มสังเกตเห็น
ว่าจะไม่ยุ่งเรื่องผีสางแล้วนะ! แต่นี่ก็เพื่อน
เมื่อทนเห็นความอยุติธรรมแห่งวงการผีตามหลอกหลอนไม่ไหว
สาวเจ้าจึงต้องออกโรงเอง คว้ากุญแจรถมอเตอร์ไซต์เตรียมออกไปข้างนอก
“เธอจะไปไหนน่ะ” เหมาอิ่งเต๋อ หนึ่งในสมาชิกห้อง (และชมรม) พูด
“ซื้อของ”
“ตอนนี้เนี่ยนะ”
“ใช่”
“งั้นอย่าผ่านไปถนนเส้นนั้นแล้วกัน
มันอันตราย”
หญิงสาวปิดประตูห้อง ‘ถ้าไม่ไปทางนั้นชั้นจะมาซื้อของตอนนี้ทำไม!’**********
รีวิวหลังอ่าน (มีสปอยด้วยนิดๆ)
**********
รีวิวหลังอ่าน (มีสปอยด้วยนิดๆ)
**********
➣ ช่วงแรก...ผีตามถึงในฝันนี่ไม่ธรรมดา
การมองเห็นผีในกระจกหลังรถใด ๆ
ก็ตามนี่เป็นอะไรที่หลอนมาก หนังทุกเรื่องที่เล่นประเด็นนี้ก็คือกินขาดความหลอนหมด
อ่านแรก ๆ นี่ไม่กล้าขี่มอเตอร์ไซต์ตอนกลางคืน
แต่ก็พยายามคิดอะไรตลก ๆ เพื่อข่มความกลัวของตนเอง
อย่างในเรื่องเงาเด็กหญิงมีอัตราเร็วในการวิ่งตามรถอย่างไม่น่าเชื่อ ถึงขั้นเป็นท่าวิ่งสับมือ (ภาพโปสเตอร์เดอะแฟลชต้องมา) พอนึกดูดี ๆ ก็ช่วยปลอบประโลมความหลอนลงได้เยอะ
แต่มันดันตามมาถึงในฝันนี่สิ!
แต่ก็พยายามคิดอะไรตลก ๆ เพื่อข่มความกลัวของตนเอง
อย่างในเรื่องเงาเด็กหญิงมีอัตราเร็วในการวิ่งตามรถอย่างไม่น่าเชื่อ ถึงขั้นเป็นท่าวิ่งสับมือ (ภาพโปสเตอร์เดอะแฟลชต้องมา) พอนึกดูดี ๆ ก็ช่วยปลอบประโลมความหลอนลงได้เยอะ
แต่มันดันตามมาถึงในฝันนี่สิ!
เรื่องของจิต ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น
หลายครั้งผีหลอกก็อาจจะมาจากจิตใจเราเองที่หลอกตัวเองอยู่ก็ได้
ทำให้ในเล่มนี้เป็นเล่มที่ผีดูค่อนข้างสมจริงตามคำนิยามของเรา
การฝันร้ายจนนอนไม่ได้เป็นสิ่งที่มีผลต่อสุขภาพอย่างแท้จริง ดังคำกล่าวที่ว่า...
การบ้านเยอะนั้น ไม่ได้ทำให้เราตาย
แค่ทำให้เราไม่ได้นอน แต่ที่เราจะตายก็เพราะไม่ได้นอนนี่แหละ!
ดังนั้นเล่มนี้จึงหลอนได้ตลอดทั้งเรื่อง
ด้วยความน่ากลัวนี่เองจึงเป็นเล่มที่อ่านแล้วสนุกมาก
➣ ช่วงกลาง...ยังสมกับเป็นนวนิยายสืบสวนสอบสวน
ด้วยความที่เพื่อนร่วมห้อง
เพื่อนร่วมชมรม และเพื่อนร่วมมหาลัยคนอื่น ๆ
เริ่มพบเจอประสบการณ์อย่างเดียวกันเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ชมรมตำนานประจำเมืองที่ตอนแรกดูราวกับชมรมร้าง
ตอนนี้กลับคึกคักซะยิ่งกว่าชมรมหมากกระดานเสียอีก นอกจากนี้ เฝิงเชียนจิ้ง ถึงขั้นยอมลงทุนมีประสบการณ์ร่วมเพื่อหาวิธีแก้ปัญหาในครั้งนี้ให้ได้
ปริศนาทุกอย่างจึงต้องรีบไขให้กระจ่าง
ก่อนที่จะหมดแรงเพราะยังไม่ได้นอนตั้งแต่สิบโมงเช้า.... (เพลงยังโอมก็มา)
เด็กหญิงชุดแดงเป็นใคร ต้องการอะไร
ทำไมถึงต้องตามล่าทุกคนที่เห็นมันอย่างเอาเป็นเอาตายขนาดนี้
เด็กหญิงโกรธแค้นที่เราเผลอชนเข้าให้ หรือเธอแค่ต้องการบอกอะไรเรา
➣ ช่วงสุดท้าย...ลุ้นสุด
ไม่รู้แล้วว่าควรกลัวผีหรือคนกันแน่
ปริศนาวุ่นวายครั้งนี้แก้ไม่ได้ง่าย ๆ
ไม่ว่าจะหาทางออกอย่างไรก็ดูท่าจะหนีการตามล่าไม่พ้น
นางเอกของเราที่ดูเหมือนจะเอาชีวิตไม่รอด เหมาอิ่งเต๋อ
ที่รู้สึกว่าพลังการมองเห็นสิ่งชั่วร้ายของตนนี่มันดูไร้ประโยชน์ซะจริง และซย่าเสวียนอวิ่น
ประธานชมรมที่มักจะเห็นไม่เป็นโล้เป็นพาย แต่เพื่อนสนิทกลับต้องมาตกอยู่ที่นั่งลำบากแบบนี้
เห็นทีจะต้องแสดงความสามารถบ้าง
เมื่อถึงจุดไคลแมกซ์สุดท้าย หนังสือก็ได้หลอกล่อเอาซะคนอ่านคาดไม่ถึงเหมือนกัน
แถมเมื่อปิดเรื่องได้ ก็ปิดได้ไม่สุดซะอย่างนั้น นั่นคือ
ปิดหนังสือแล้วก็ยังหลอนอยู่เป็นวัน!
และสุดท้าย บางครั้งคนก็น่ากลัวกว่าผี
**********
ชอบอะไรในหนังสือบางครั้งการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด ก็คือการเผชิญหน้ากับปัญหา
เป็นสิ่งที่ชอบที่สุดในตัวละคร เฝิงเชียนจิ้ง
ที่ไม่เคยกลัวที่จะเผชิญหน้ากับปัญหาใด ๆ เพราะการที่เอาแต่กลัวก็ไม่ได้ช่วยแก้ไขอะไร
แต่สิ่งที่ช่วยได้ดีที่สุด ก็คือ สติ (อีกแล้วเหรอ) ความกล้าเพียงอย่างเดียวแล้วเดินดุ่ม ๆ
เข้าไปไม่ดูตาม้าตาเรือก็ไม่ได้ช่วยอะไรเช่นกัน (อันนี้เหมือนพวกอยากลองของ) สติมาตามด้วยปัญญา
บวกกับความกล้าก็จะผ่านไปได้
ที่ชอบอีกอย่างคือการเป็นคนช่างสังเกตของ
ซย่าเสวียนอวิ่น ที่นอกจากจะช่างสังเกต
ยังรู้ว่าอะไรควรปิดปากเงียบไว้ก่อนด้วย บางครั้งการที่เรารู้อะไรเข้าให้ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าอวดเสมอไป
ต่อกันที่ความสัมพันธ์ของตัวละคร
คู่ที่เราเชียร์หนักมากอย่าง เหมาอิ่งเต๋อและเฝิงเชียนจิ้ง เหมือนจะพัฒนาความไว้วางใจกันอย่างก้าวกระโดด
ถึงแม้ยังไม่เข้าใกล้ความโรแมนซ์เท่าใดนัก แต่ด้วยจินตนาการของผู้อ่านก็ยังพอถูไถได้
เช่นเดียวกันกับเลือดสาววายที่กระชุ่มกระชวยอย่างมาก เมื่อประธานชมรมอย่างซย่าเสวียนอวิ่น
ต้องขาดมือขวารู้ใจอย่าง กัวเย่ว์หยาง ก็แอบเป็น ห่วงเค้าแหละ ดูออก ><
**********
ตบท้ายอ่านแล้วต้องได้คิด...
0 comments