ชวนกันอ่าน...พันสารท เล่ม 3 “รักหลอกจึงหยอกเล่น...แล้วหยอกสไตล์ประมุขนี่คือไม่ธรรมดาเลยนะ!”
มาต่อกันที่เล่ม 3 อย่างรวดเร็ว
เป็นเล่มที่อ่านแล้วทั้งเขิลทั้งขรรม ปิดหนังสือกรี๊ดไม่รู้กี่รอบ ว่าด้วยพฤติกรรมแปลก
ๆ ของประมุขที่มีให้ลุ้นตลอดว่านี่เจตนาดีหรือร้าย หรือเล่น หรือจริงจัง ประมาณว่า
นี่ประมุขจีบรึเปล่าคะ ทั้งหยอกทั้งหยอด แล้วหยอกสไตล์ประมุขนี่คือไม่ธรรมดาเลยนะ!
เรื่องย่อเราขอเล่า
จากความตื่นเต้นในเล่มที่แล้ว ความโชคร้ายของประมุข
‘เยี่ยนอู๋ซือ’ ถูกฟาดหัวแตกกะโหลกร้าว เอาจริงคือควรตายอ่ะ
แต่ถ้าเป็นแบบนั้นก็คงจะดูถูกประมุขพรรคมารมากเกินไปซะแล้ว อีกทั้งยังได้คนงาม ‘เสิ่นเฉียว’
อดีตเจ้าสำนักเขาเสวียนตูคอยดูแล
สุดท้ายอาการของท่านประมุขก็พ้นปากอ่าวแห่งความตายมาได้
ถึงจะยังส่งผลให้ท่านเยี่ยนอู๋ซือมีบุคลิกแยกออกมาถึงสี่บุคลิกก็ตาม
ด้วยอาการที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ
เสิ่นเฉียวก็ได้วางแผนจะพาประมุขกลับคืนสู่นิกายฮวนเยี่ย
แต่ระหว่างทางกลับถูกศัตรูอาฆาตตามกลิ่นมาเจอจนได้
ถึงแม้เสิ่นเฉียวจะวรยุทธ์ฟื้นฟูขึ้นมาก แต่ต้องทั้งสู้ทั้งดู ‘เจ้าตัวภาระ’
ไปด้วยก็ดูท่าจะไม่ไหว สุดท้าย ประมุขกลับทำสิ่งที่ปกติประมุขไม่น่าทำ
ยอมเป็นตัวล่อ จี้จุดซ่อนอาเฉียวไว้ ทั้งที่วรยุทธ์ตัวเองไม่มีทางสู้ได้แน่นอน
อุ๊บะ! ประมุขผีเข้า
เสิ่นเฉียวเองก็เช่นกัน
แทนที่จะดีใจที่ท้ายที่สุดประมุขก็คิดถึงผู้อื่นมากกว่าตนเอง
แต่ไหงตัวเค้ากลับมีน้ำตารื้น ๆ จากขอบตาได้เล่า!
ติดตามเรื่องราวความสัมพันธ์ที่ค่อย
ๆ ก่อตัวขึ้นของประมุขเยี่ยนและเสิ่นเฉียวต่อกันได้ที่…พันสารท เล่ม 3
บอกได้แค่ตกหลุมรักประมุขแบบถอนตัวไม่ขึ้นแล้วจ้า
*******
ไม่รู้จะเล่าอย่างไรไม่ให้สปอยมากเกินไป 5555
แต่อยากบอกแค่เราชอบเล่ม 3 และ 4 ของพันสารทมากที่สุดเลย คุณจะตกหลุมรักความประมุข และเอ็นดูอาเฉียวอย่างถึงที่สุด นอกจากนี้เหตุการณ์บ้างเมืองในเล่มนี้คือตื่นเต้นมาก เปลี่ยนแปลงแบบฉึบฉับใครเชียร์ฮ่องเต้แคว้นไหนอยู่ก็ต้องมาลุ้นกันว่าจะเป็นอย่างไรต่อ วรยุทธ์ที่ฟื้นฟูอย่างมากของอาเฉียวก็ได้เริ่มพิสูจน์ตัวเองแล้วว่าใครเจ๋งจริง ไหนจะเรื่องราวของการประลองยุทธ์ แถมพ่วงด้วยศัตรูเก่าแก่อีก ใครกลัวว่าจะหลงชื่อตัวละครอีกก็คือไม่ต้องกลัวค่ะ เพราะคนเรามันหลงกันได้ 555 แต่ยังสนุกไม่เปลี่ยนแน่นอน โมเมนต์พระนายก็มีมาให้เห็นมากมายแบบเทน้ำเทท่า ขอยกตัวอย่างที่ทางสำนักพิมพ์ every เคยโปรโมทเป็นน้ำจิ้มแล้วกันค่ะ ส่วนที่เหลือตามกรี๊ดได้ในหนังสือเลย
หากใครสนใจสปอยเล็ก ๆ น้อย ๆ มาต่อกันที่รีวิวหลังอ่านกันได้เลยค่ะ
*******
รีวิวหลังอ่าน (สปอยเล็ก
ๆ น้อย ๆ)
*******
ว่าด้วยเรื่องวรยุทธ์...อดีตเจ้าสำนักเขาเสวียนตูกำลังมาทวงคืนแล้ว
เรื่องวรยุทธ์ของเสิ่นเฉียวเป็นปมที่คนเขียนทิ้งไว้ตั้งแต่เริ่ม
เพราะเปิดเรื่องมาเสิ่นเฉียวผู้เป็นถึงเจ้าสำนักเต๋าอันดับหนึ่งก็ต้องมาแพ้ราบคาบให้กับ
‘คุนเสวีย’ ของทูเจวี๋ยที่ไม่ใช่คนแผ่นดินใหญ่ด้วยซ้ำไป
แถมอาจารย์ของเสิ่นเฉียว ‘ฉีเฟิ่งเก๋อ’ ก็เป็นถึงปรมจารย์แห่งยุคที่เอาชนะ ‘หูลู่กู’
อาจารย์ของคุนเสวียเมื่อยี่สิบก่อนได้ด้วย
แล้วไหงเปิดตัวมาน้องอาเฉียวเราถูกราศีหัวหน้าพรรคมารกลบหมด
สู้แต่ละทีทั้งกระอักเลือดทั้งสลบไสล
กลายเป็นคนน่ากลั่นแกล้งที่สุดในยุทธภพไปได้
คนอ่านจึงคอยลุ้นตลอดเวลาว่าความเก่งกาจที่แท้จริงของอาเฉียวคืออะไร ประมาณว่า
คิดว่าอาเฉียวต้องมีกึ๋นอะไรซักอย่างที่ยังไม่แสดงแน่นอน
ด้วยความที่อาเฉียวใช้กระบี่ เพราะฉะนั้นมันก็จะมีแนวทางความ advance ของกระบี่สี่ขั้น ทั้งปราณกระบี่
จิตกระบี่ ใจกระบี่ วิญญาณกระบี่ แรกเริ่มเสิ่นเฉียวก็เปิดมาด้วยปราณกระบี่แล้ว
ยังมีให้ลุ้นอยู่อีก ส่วนเยี่ยนอู๋ซือน่ะเหรอ...คนนั้นพรรคมาร กระบี่ดาบคืออะไร
แค่ชี้นิ้วเดียวคนอื่นก็กลัวหัวหดแล้ว
นอกจากนี้ยังมีคัมภีย์สุริยันที่เสิ่นเฉียวค่อย ๆ เก็บสะสมอ่านมาเรื่อย ๆ
แรกเริ่มก้ได้อ่านอยู่แล้วที่เขาเสวียนตู แต่มาก็มาถูกบังคับอ่านโดยท่านประมุขอีก
จากนั้นก็ไปบังเอิญรู้ ๆ โดยมีประมุขอยู่เบื้องหลังตลอด
เพราะฉะนั้นจะพูดกันไปกันมา
ประมุขเยี่ยนมีความเกี่ยวข้องกับวรยุทธ์ที่ดีขึ้นของเสิ่นเฉียวอย่างงง ๆ
จะแยกจากกันก็แยกไม่ขาด ทวงแค้นบุญคุณกันไปมาจนสับสน ไม่รู้จะยังไง
สุดท้าย...ในเล่มสามนี้จะเริ่มโชว์ความเทพของอาเฉียวที่เราลุ้น
ๆ กันมาโดยตลอด ให้เห็นว่าไม่ใช่พระเอกที่เก่งคนเดียว นายเอกก็ไม่ธรรมดานะคะ
ว่าด้วย...การทำดีสไตล์ประมุขเยี่ยนอู๋ซือ
‘ข้าขอยืมดาบปฐพีร่วมโศกของเจ้าหน่อย’ เยี่ยนอู๋ซือพูด เสิ่นเฉียวก็ยื่นกระบี่ให้
เพราะตนเองก็ไม่มีแรงพอจะไปสู้กับใครแล้ว ในระหว่างที่ทั้งคู่ซ่อนตัวอยู่ในถ้ำ
ต่อมาประมุขก็ยังไงไม่รู้ หายตัวไปและกลับมาพร้อมกับปลาสดเสียบไม้
โอ้โหประมุข ไปหาปลามาให้!
แถมไม่ได้หนีไปไหนด้วย นี่คือผิดคาดจากนิสัยประมุขที่ผ่าน ๆ มาอย่างมาก
คนอ่านก็คือเราพร้อมที่จะให้อภัยความเลวร้ายของท่านในเล่ม 2 แล้วค่ะ แต่ประทับใจได้ไม่เท่าไหร่ อาเฉียวก็ถามว่า
‘เดี๋ยวนะ ท่านใช้อะไรเอาเครื่องในออก
กับขอดเกล็ดปลา!’
‘ก็ปฐพีร่วมโศกของเจ้าไง’
‘…’
นี่คือสไตล์การทำดีตามประสาของท่านประมุข
มีมาให้เห็นเป็นระลอกจากความพยายามหยอดอาเฉียวทุกทาง เป็นการทำดีที่จะสุดก็ไม่สุด
เรียกได้ว่า ไม่ใช่ประมุขเยี่ยนทำไม่ได้
ถึงขั้นอาเฉียวบอกว่าประมุขนอกจากพัฒนาวรยุทธ์คงต้องพัฒนาหนังหน้าด้วยแน่
ซึ่งสำหรับเราการเริ่มเปลี่ยนตัวเองมาเอาใจใส่คนผู้หนึ่งของประมุขเยี่ยนคือความน่ารัก
และความสนุกอย่างหนึ่งของเรื่องนี้
มาร่วมลุ้นไปกับการกระทำของท่านประมุขที่เหนือความคาดหมายตลอดเวลากันได้ในพันสารท
เล่ม 3 เลยค่ะ
ตัวละครอื่นที่เราชอบ
อ่านมาได้ครึ่งหนึ่งแล้ว ต้องมีตัวประกอบที่เราลุ้น
เชียร์หรือหลงรักบ้าง ในเล่มสามนี้ คนที่เราชอบ เช่น
จ้าวฉืออิ๋ง...เจ้าสำนักนิกายปี้สยา
เรื่องเปิดมาด้วยความงาม แบบหญิงแกร่งผู้เป็นถึงเจ้าสำนัก
ก็ทำเอาชื่นชมไปเจ็ดในสิบส่วนแล้ว แถมนิสัยดูนอบน้อมถ่อมตนไปอีก เราชอบตัวละครนี้มากๆเลยค่ะ
กู้เหิงปัว...ศิษย์น้องห้าของเสิ่นเฉียว
ว่าจ้าวฉืออิ๋งเปิดตัวมาสวยเก่งแล้ว กู้เหิงปัวก็คือเปิดตัวมาปังยิ่งกว่า
เหมือนเดินพรมแดงมาสวย ๆ เทศกาลเมืองคานส์เลยค่ะ สมเป็นศิษย์น้องอันน่าภาคภูมิใจ
ต้องมาให้ลุ้นว่าจะไปเป็นถูกตาต้องใจใครมั้ยน้า
เอ๊ะ! ทำไมมีแต่ผู้หญิง
เนื่องจากในเรื่องถ้าไม่ใช่เสิ่นเฉียวกับประมุขเยี่ยนแล้วก็ดูยังไม่ต้องตาใครเป็นพิเศษ
จะว่ามีก็มีอยู่บ้าง เช่น เปียนเหยียนเหมย ศิษย์เอกของท่านประมุข
ผู้ซึ่งแทบจะเป็นคนจัดการทุกอย่างของพรรค เปรียบเสมือนผู้ทำงานแทนงานทุกด้านที่ประมุขคร้านจะทำ
วรยุทธ์อาจจะไม่ได้เริศเลอแต่การทำงานกับคนคือเก่งอย่างหาตัวจับยาก
แถมเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์กับอาเฉียวนี่ตัวเองก็รู้งานซะเหลือเกิน
จนบางทีเยี่ยนอู๋ซือก็รู้สึกว่าศิษย์เอกจะทำหน้าที่พ่อสื่อได้ดีเกินไปแล้ว
สุดท้ายของการชวนกันอ่านในครั้งนี้
*******
ถามเพื่อนนักอ่านทุกคน...คุณชอบตัวประกอบตัวใดในหนังสือมากที่สุด
0 comments