ชวนกันอ่าน...มังกรอำพราง ‘ผจญภัยขุดสุสานตามสไตล์คุณเมิ่งซีสือกัน’

เริ่มจากหยกโบราณแปลก ๆ ศาสตราจารย์ที่หลงใหลประวัติศาสตร์ขั้นสุด นักเรียนคนเก่งเอเนอร์จี้ล้น และผู้บำเพ็ญเต๋าที่หล่อขรึมไม่ไหวแล้ว ได้นำพาเรื่องราวการผจญภัยเพื่อค้นหาประวัติศาสตร์ที่หายสาบสูญ พ่วงด้วยกลุ่มโจรขุดสุสานอาวุธครบครันที่ทำให้คำว่าปลอดภัยไม่มีในพจนานุกรม และนี่คือ มังกรอำพราง’...แล้วความจริง มังกรอำพรางคืออะไรวะ? สปอยก่อนว่าไม่ใช่มังกรหมอบรอในถ้ำนะเออ

เรื่องย่อเราเผลอเล่าไปแล้ว...

เผลอหลุดปากเรื่องย่อปกหลังของหนังสือไปซะแล้ว เหลือก็เพียงเรื่องราวการพบกันครั้งแรกระหว่าง เซียวหลัน’ นักศึกษาเอเนอร์จี้ล้น กับ เฮ่อยวน’ นักพรตผู้เงียบขรึมเหมือนภูเขาน้ำแข็ง   

            ชีวิตฉันมีภัยอย่างหนึ่ง กุญแจสำคัญของภัยที่ว่านั้นอยู่บนตัวนาย ตราบใดที่ไม่มีนาย ภัยนี้ก็ย่อมสามารถแก้ได้ เฮ่อยวนพูด

            เซียวหลันกะพริบตา ดังนั้น?’

            ดังนั้น...ในแววตาเขาไม่เศร้าไม่ดีใจ ฉันตอบรับคำเชิญของผู้เฒ่าจ้าว ก็เพื่อมาดูนายตาย!’

———————-

            ถึงแม้เฮ่อยวนจะพูดออกไปซะขนาดนั้น แต่เซียวหลันก็ไม่ได้ดูจะสำเนียกเลยว่าตนเป็นตัวซวยของคนอื่น ยังคงเป็นเด็กหนุ่มผู้ร่าเริงพูดมากซะคิดว่าความซวยจะไม่หมดไปจนกว่าจะหยุดพูด แต่ถึงอย่างนั้นเซียวหลันก็ไม่ธรรมดา ทั้งเกิดในวันอัพโชคที่นานปีจะวนมาที ครอบครัวเสียชีวิต แถมมักฝันถึงเรื่องราวแปลกปะหลาด เรื่องราวที่แสนทรมาน เช่นเดียวกันกับเฮ่อยวนที่เกิดมาดวงวิญญาณขาดหายจนต้องไปนำของผู้อื่นมาเป็นของตนแทน แล้วไปได้ของใครมากันนะ เกี่ยวพันอย่างไรกับเซียวหลันหรือไม่ ต้องตามอ่านกันต่อในหนังสือเลย           

———————-

รีวิวหลังอ่าน (สปอยกรุบกริบ)     

ว่าด้วย...การขุดสุสาน ความน่ากลัวตื่นเต้นที่แอบหลอนเอาเรื่อง ⧫ 

            สิ่งที่ไม่ได้เตรียมใจมาก่อนอ่านแนวผจญภัยขุดสุสาน คือ มันมีเรื่องหลอน ๆ ปนอยู่ในนั้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นเดินทางอยู่ดี ๆ คนหายไป จู่ ๆ มีเพื่อนบอกว่าเห็นใครอีกคนกำลังยืนมองเรา หรือเห็นอีกฝั่งหนึ่งของหน้าผามีคนยืนอยู่ด้านหลังอีกคนทั้งที่เพิ่งจะข้ามไปได้คนเดียว มีมือขาว ๆ ยื่นมาจับขาลากลงน้ำ(พิมพ์ๆอยู่ขอพักลากผ้าห่มมาคลุมขาแปป) นอกจากนี้ด้วยสำนวนการเขียนที่ทำให้เรามานั่งคิดเอาเองทุกทีเลยว่า ที่ตัวละครเห็นมันใช่คนเหรอวะ ตรงนี้แหละที่ทำเราหลอนกว่าตัวละครอีก อยากบอกแม่เมิ่งว่าบอกหนูมาตรง ๆ เถอะว่าที่เห็นคืออะไร 555

            เข้าช่วงวิชาประวัติศาสตร์ ยังคงมีการกล่าวอ้างอิงให้เห็น และที่เด่นชัดมากคือสมัยราชวงศ์ฉิน ซึ่งเป็นราชวงศ์ที่ยิ่งใหญ่ และเก่าแก่มากกกกก ความเด่นชัดนอกจากกำแพงเมืองจีนที่เด็กปอสามยังเคยได้ยิน ก็คือการตามหายาอายุวัฒนะของจิ๋นซีฮ่องเต้นั่นเอง นำมาซึ่งสุสานจักรพรรดิเครื่องปั้นดินเผาที่ยิ่งใหญ่ ทำให้เห็นว่าช่วงนั้นคนให้ความสำคัญกับชีวิตหลังความตายมากแค่ไหน ยังมีความเป็นไปได้อีกหลายอย่างว่ามนุษย์อาจเข้าถึงพลังแห่งจิตวิญญาณได้มากกว่านี้ ถึงขนาดตามหายาอายุวัฒนะกันอย่างจริงจัง ก็อาจมีสิ่งมีชีวิตในตำนานเดินโลดแล่นในผืนแผ่นดินจีนอันกว้างใหญ่มาก่อนจริง ๆ ก็ได้ ขอต้อนรับสู่...สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ฉบับบางตัวคือฆ่าเราตายโคตรอนาถ

⧫ ว่าด้วย...ตัวละคร ⧫ 

เซียวหลัน – ‘ฉันช่วยเค้ามันก็เรื่องของฉัน เขาถีบฉันออกมันก็เรื่องของเขา ทำไมฉันต้องไปโกรธเค้าด้วย

            ยังคงคอนเซปนายเอกอ่อนนอกแข็งใน ความอ่อนนอกที่มาพร้อมกับการมองโลกในแง่ดีมาก ๆ พลังงานล้น ๆ พูดมาแต่ละครั้งคนน่าจะแทรกไม่ทันและหลายครั้งยังจับสาระไม่ได้อีก แต่อย่าให้เซียวหลันได้เข้าสู่โหมดจริงจัง นี่มันศิษย์เอกสาขาประวัติศาสตร์เลยนะ อีกทั้งปืนนี่แม่นกว่าเฮ่อยวนอีก ดูทรงปล่อยทิ้งไว้ไม่น่าตาย เว้นเสียแต่มักเก็บอาการบาดเจ็บไว้ภายใต้การพูดมากเพื่อกลบเกลื่อน ที่หากไม่ได้เฮ่อยวนคอยดูก็คงไม่รอด 

            ความน่ารักอีกอย่างของเซียวหลันคือความขี้เตาะเล่น ๆ ของตัวเอง แบบคิดว่าตัวเองเป็นสามีมาตลอดด้วยนะ รู้ตัวอีกทีก็ไม่ทันแล้วว่าตัวเองโดนสลับตำแหน่ง

            เซียวหลันจับแขนเฮ่อยวน หายใจหอบรัวทั้งน้ำตาคลอ แต่ก็ยังจะรวบรวมเรี่ยวแรงพูดออกมาได้ประโยคหนึ่ง ทั้งหมดนี้มันกลับกันแล้ว ฉันต้องเอาใหม่!”

            “สายไปแล้ว!”

            สรุปได้ว่าจัดเป็นนายเอกสายตลกเหมือนจะไร้เดียงสาแต่เปล่าเลย ใครรำคาญน้องพูดเยอะ ๆ ก็เชิญเรียนคาถาหุบปากกับเฮ่อยวนได้เลย 


เฮ่อยวน – คนจริงไม่พูดให้มากความ
            เฮ่อยวน หรือ เสี่ยวเฮย (ที่เซียวหลันเรียกเอง) มีความพูดน้อย ไม่มากความ รวมกับความขรึมใด ๆ บอกได้แค่ว่า คนจริงเค้าไม่พูดเยอะ เจ็บคอ  ที่ล้ำไปอีกนิดด้วยต้องรับมือกับความพลังงานล้นของเซียวหลัน เฮ่อยวนจึงแอบมีความเผด็จการความดุแฝงอยู่เบา ๆ บวกกับวิญญาณเอย อดีตชาติเอย ยิ่งส่งเสริมความน่าเกรงขามเข้าไปอีก อยากจะบอกเจ้าน้องเซียวหลันว่า ยอมพี่เค้าไปเถอะ แกสู้ไม่ได้ แต่ถึงจะไม่ใช่สายอ่อนโยน ทำอาหารเป็น ก็ยังเป็นบุคคลที่พึ่งพาได้เสมอ คำว่าปลอดภัยจะมีอยู่เต็มพจนานุกรมเมื่อเฮ่อยวนโผล่มา
            ในใจยังแอบคิดว่าเฮ่อยวนนี้คล้ายสุยโจวเวอร์ชั่นดุขึ้น และทำอาหารไม่เป็น ยังดีที่ไม่ปากคอเราะร้ายเท่าประมุขเยี่ยน

———————-

นอกจากเนื้อเรื่องจะดำเนินในสุสานทะเลทรายแล้ว ยังเดินเรื่องไวไม่น่าเบื่อ พาไปบุกป่า บุกทะเลสาบอีก เห็นโบราณสถานทุกรูปแบบ สัตว์ปะหลาดหลากหลาย แต่ด้วยความที่หนังสือมีความยาวเพียงสองเล่ม ดังนั้น ปริศนาบางอย่างอาจจะไขได้เร็วจนตามไม่ทัน บางอย่างก็ยังเป็นปริศนาอยู่อย่างนั้นไป หากมีเนื้อหายาวกว่านี้อาจจะเพิ่มความผูกพันกับตัวละครมากกว่านี้ด้วย ยิ่งความจริงแล้วมีตัวละครหลายตัวที่น่าสนใจ อีกทั้งความสัมพันธ์ของเซียวหลันกับเฮ่อยวนก็ไม่ธรรมดา เอาเป็นว่าไม่ธรรมดามาก ๆ แล้วแต่ผู้อ่านจะตีความนะคะ ส่วนตัวเราแอบชอบเบา ๆ 555 

            ว่ามาทั้งหมดเมื่อซักครู่เราให้อภัยเมื่อเจอ nc เหมือนอ.เมิ่งเก็บกดจากการเขียนในรัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ และพันสารท แล้วเอามาลงที่มังกรอำพราง เกินคาดจากที่คิดว่าจะตัดเข้าโคมไปเยอะมากๆๆๆ ผ่านค่ะ นอกจากนี้ยังมีสัตว์เลี้ยงน่ารักของเซียวหลันอีกที่เพิ่มสีสันของเรื่องด้วย

———————-

ทิ้งท้าย...จากหนังสือ


            อ่านหนังสือของอ.เมิ่ง จะต้องมีประโยคประทับใจทุกเล่ม นอกจากนี้ยังมีสำนวนมุกขรรมขันที่ทำให้เราชอบงานของอาจารย์มาก ๆ ดังนั้น สำหรับใครที่ยังไม่เคยลองอ่านวายของคุณเมิ่งซีสือ แล้วอยากอ่านสั้น ๆ แนวปัจจุบัน เน้นผจญภัยสนุกสนานไม่ตึงเครียดเกินไป มีหลอนไปเองนิด ๆ (สำหรับคนช่างจินตนาการ) จะแนะนำเล่มนี้เลยค่ะ


Share:

0 comments