ชวนอ่าน ‘รักเรานั้น...นิรันดร’ วันหนึ่งวันมีค่าเท่ากับสองเท่าของวันพรุ่งนี้

รีวิวหนังสือครั้งนี้กลับมาพร้อมหนังสือที่ไม่คุมตีมสุด (ก่อนหน้านี้นิยายจีนรัว และหนังสือคือเก่ามากพิมพ์ปี 2002 ฉบับภาษาไทย เกือบยี่สิบปีเลยเหรอ! ‘รักเรานั้น...นิรันดร’ หรือชื่ออังกฤษ ‘Suzanne’s Diary for Nicholas’ ถึงชื่อไทยจะดูหวานเลี่ยน แต่ทุกคน เล่มนี้เป็นเล่มที่เราหยุดอ่านไม่ได้จริง  ขนาดเผลอเปิดไปอ่านตอนจบก่อน (อย่าหาทำก็ยังกลับมาอ่านตั้งแต่แรกอยู่ดี มันพิเศษอย่างไร มาดูกัน บอกได้แค่ว่า หนังสือเล่มนี้ แด่ผู้ที่เคยรัก เคยสูญเสีย และกลับมารักอีกครั้ง (ลอกจากหน้าปก)

     

     เล่าถึงหนังสือเก่า  เล่มหนึ่งที่เก็บได้จากการรื้อห้องเก่า  ขอบถูกลูกแม็กยักษ์เย็บติดไว้ไม่พอ ยังมีรอยแล็กซีนสีแดงคาดไว้อีก 

     โอ้โห! หนังสือรุ่นแม่แน่นอน 

     หน้าปก ‘รักเรานั้น...ชั่วนิรันดร’ 

     เอาแล้วไง ใช่แน่นอน หนังสือความรักลึกซึ้งรุ่นแม่

     อ่ะ ลองให้โอกาสอ่านชื่อภาษาอังกฤษ

      Suzanne’s Diary for Nicholas

     ชัดไดอารี่ของหญิงคนหนึ่งถึงชายสุดที่รัก

     ไม่ใช่แนวของเราเลย เรื่องรัก  ใคร่  อะโลนเนี่ย แต่เดี๋ยวนะ

     แล้วทำไมแกต้องเขียนไดอารี่?

     เนี่ย...ชื่อหนังสือเริ่มทำหน้าที่ตกพวกนักอ่านขี้เสือกอย่างเรา รู้ตัวอีกทีหนังสือติดอยู่ที่มือตูดก็โยกไปที่เก้าอี้แล้ว

     ขอลองเปิดนิดนึงก็ได้ก่อนที่จะ เอ้ย นี่มันไดอารี่จากแม่เขียนถึงลูกเหรอวะ

*********

🔸 เรื่องย่อเราขอเล่า 🔸

     อย่างที่เกริ่นไปตอนแรกนี่เป็นไดอารี่ของซูซานนี่หญิงสาวคนหนึ่งที่เขียนไดอารี่ให้ลูกชายที่เพิ่งเกิดของเธอ ด้วยหวังว่าซักวันลูกจะได้รู้จักเรื่องราวของพ่อและแม่ของตนเอง (ไม่เหมือนซูซานนี่ที่เสียพ่อและแม่ไปตั้งแต่เด็ก

     ถึง นิโคลัส ด้วยรักนิรันท์จากซูซานนี่และแมท

     แต่ที่จริงหนังสือหน้าแรกเปิดมาที่ผู้หญิงอีกคนชื่อว่า เคธี่

     บรรณาธิการคนสวย เธอเพิ่งจะถูกบอกเลิกจากชายคนรัก...แมท

     เดี๋ยวนะ...แมท!

     หลังจากที่แมทบอกเลิกแล้วหายไป เขาได้นำไดอารี่เล่มหนึ่งทิ้งไว้ให้

     ‘บางทีไดอารี่เล่มนี้อาจจะอธิบายสิ่งต่าง  ได้ดีกว่าผมก็ได้ ถ้าคุณมีหัวใจ จงอ่านมัน

     ‘คุณเป็นคนเพียบพร้อม พิเศษ และงดงาม ไม่ใช่คุณหรอกที่ผิด แต่เป็นผมเอง

     เคธี่รู้ทันทีว่านี่ต้องเป็นไดอารี่ภรรยาของแมท นี่เค้ามีภรรยาอยู่แล้วเหรอ เขามีลูกแล้วด้วยซ้ำ เธอจริงใจต่อเขาอย่างถึงที่สุด เค้ากลับหลอกเธอ

      แล้วทำไมเขาต้องทิ้งไดอารี่นี้ให้เธอด้วย

      แต่เพราะเธอยังมีหัวใจไง สุดท้ายเธอจึงเปิดอ่าน...เรื่องราวทั้งหมดจึงเริ่มต้น

*********

🔸 รีวิวหลังอ่าน 🔸

      หนังสือจะเล่าสลับกันไป พาร์ทของเคธี่ พาร์ทไดอารี่ กลับมาที่เคธี่ แล้วก็ไดอารี่ เหมือนเราอ่านนิยายซ้อนนิยายเหมือนอ่านเรื่องราวที่เวลาซ้อนเวลา

       ชิบหาย คนเขียนอย่างเก่ง!

       จริง  นักเขียนเองก็ไม่ธรรมดา โด่งดังมากในต่างประเทศจนเคยได้บันทึกว่ามีรายได้จากการเขียนหนังสือมากเป็นอันดับสองรองจาก Fifty shade of Grey ในปี 2013 ทุกวันนี้หนังสือของเขายังขายดีเช่นกัน ถึงส่วนใหญ่จะเป็นแนวสืบสวนสอบสวน

       ในพาร์ทของไดอารี่ (พาร์ทส่วนใหญ่ของหนังสือเลยทุกคนจะได้รู้จักกับซูซานนี่ ถือเป็นนางเอกอีกคนละกัน และเธอเขียนไดอารี่เป็นเรื่องเป็นราวมาก เรื่องราวของตัวเอง เรื่องราวที่เธอได้รู้จักกับแมท ผู้ชายที่โรแมนติกมากกกกกกก ถึงเจอกันครั้งแรกจะนึกว่าไอ้หมอนี่เป็นคนงานก่อสร้างก็ตาม 

       ใช่ค่ะ ซูซานนี่กับแมทเป็นคนรักกัน

        ซูซานนี่เล่าเรื่องเอาแบบละเอียดยิบ เอาซะวันนึงถ้าลูกอ่านออกคงนึกว่าอ่านนิยายอยู่เหมือนเรา 555 นอกจากความโรแมนติกที่เราจะต้องมีเขิน  ด้วยแหละ คุณยังจะได้รู้ด้วยว่าความรู้สึกว่าคนนี้ใช่มันเป็นยังไง ความรู้สึกว่าคุยถูกคอกับคน  นี้ ความรู้สึกที่ไม่อยากให้เขารีบกลับ ความรู้สึกที่อยากจะแค่อยู่ด้วย ความรู้สึกทั้งมวลที่เกิดขึ้นมาก่อนที่คุณจะรู้ว่ามันคือความรัก

         แน่นอนมันไม่ง่ายเลย ที่เราจะรู้ว่าคนนี้ใช่สำหรับเราจริง  มั้ย

         แต่สิ่งที่ซูซานนี่บรรยายมันคือสิ่งที่เธอมั่นใจว่าแมทใช่ 

         หลายอย่างมันเป็นเพียงเรื่องธรรมดานะ คุยกัน ไปเที่ยวด้วยกัน แต่นี่แหละความรักจริง  มันก็ไม่ได้ต้องการความหวือหวาอะไรมากมาย เรื่องที่ต้องต่อสู้ไปด้วยกันในทุก  วันก็เป็นสิ่งธรรมดาที่เราทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเจอ และนี่เองคือสิ่งที่ทำให้เราอินกับนิยายเรื่องนี้มาก อินกับซูซานนี่ เธอเป็นผู้หญิงที่ดีจริง  ผู้อ่านจะต้องรักผู้หญิงคนนี้ แม้แต่เคธี่ที่ควรจะเกลียดซูซานนี่แต่เธอก็ทำไม่ลงเช่นกัน

         คำพูดติดปากของซูซานนี่คือ 

       โชคยังดีใช่มั้ย?

       ในทุก  วัน สปอยนิดนึงคือนางเอกเราคนนี้มีโรคประจำตัวที่ทำให้ทุกวันที่ยังคงตื่นขึ้นมานั้นคือสิ่งโชคดีที่สุด คุณจะเริ่มรู้ว่าสำหรับบางคนวันหนึ่งวันที่ยังมีชีวิตอยู่มีค่าแค่ไหน แล้วเราเองล่ะให้ความคุ้มค่ากับหนึ่งวันของเราแค่ไหนกัน

         และหลังจากจบไดอารี่ คุณจะเข้าใจแมท แล้วที่สำคัญถ้าคุณเป็นเคธี่ที่ได้อ่านไดอารี่ทั้งหมดคุณจะทำอย่างไร (เอาแค่เคธี่เองก็เกือบจะอ่านไม่จบอยู่แล้ว นี่มันไดอารี่เมียของแฟนเก่า!นะ)

*********

       นอกจากความรักสิ่งที่เรื่องนี้บอกเราด้วยคือการใช้ชีวิต เราชอบเรื่องลูกบอล 5 ลูกมาก อย่างน้อยชีวิตอันยุ่งเหยิงแต่ละวันของเราก็พอรู้ว่าควรให้ความสำคัญกับอะไร เพื่อน  คิดว่าเรื่องต่อไปนี้เป็นอย่างที่ซูซานนี่บอกจริง  หรือไม่เราคิดว่าน่าจะจริงนะ

*********

🔸 สปอยแบบกรุบกริบ 🔸

      เอาเป็นว่าตอนจบดีนะทุกคน ทุกคนที่แตกร้าว สามารถเริ่มต้นใหม่ได้ทั้งนั้น บอกมาขนาดนี้เอาเป็นว่าระหว่างทางอ่านมีน้ำตาแตก😭 เราคือไม่ใช่แค่คลอเบ้าอ่ะ มันร่วงลงมาเลย เปาะแปะ อาจจะเพราะว่าถ้าเป็นเราเองเจอเรื่องแบบนั้น ก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าจะผ่านมันไปได้อย่างไร แต่สุดท้าย...ทุกคนต้องผ่านมันไปได้นะ 

       ตอนอ่านจบสิ่งที่ผุดขึ้นมาทันทีเลย คือ

      หนึ่ง...บางทีชีวิตก็เหมือนไดอารี่ ชีวิตที่จบ ก็คือไดอารี่ที่ไม่มีอะไรให้อ่านอีกแล้ว มันเหมือนแค่มันหายไป ไดอารี่ก็กลายเป็นแค่สมุดเล่มหนึ่ง คนที่ยากจริง  คือคนที่ต้องอยู่ต่อไปด้วยความทรงจำที่ต้องแบกไว้ทั้งหมด แต่นั่นแหละโอกาสยังเป็นของคนที่อยู่ต่อไปเสมอ

      สอง...หรือเราจะลองเขียนไดอารี่ถึงลูก ลูกทิพย์ก็ได้ หากบางเรื่องราวเราจริงใจบอกตัวเองไม่ได้ แต่ถ้าได้บอกคนที่เราต้องรักมากเช่นลูก เราอาจจะเขียนเรื่องนั้นอย่างจริงใจขึ้นมาได้ เหมือนซูซานนี่ไง

*********

ขอบคุณที่ติดตามชวนกันอ่านครั้งนี้จนจบนะคะ ถึงหนังสือจะเก่ามาก แต่การันตีความดีงามแน่นอน

Share:

0 comments